บทความ

เปลี่ยนชนิดใบขับขี่ จาก ท.2 เป็น บ.2 ทำไมต้องเปลี่ยน?

ใบขับขี่ใกล้หมดอายุ ถึงเวลาต่อใหม่อีกครั้ง อาการปวดหัว! ได้เริ่มขึ้นแล้ว... ตอนนี้ไม่ได้ขับรถบัส และรถบรรทุกแล้ว จะใช้ใบขับขี่แบบเดิม(ท.2)อีก มันก็เสียเวลาตรงที่ต้องรอตรวจสอบ "ประวัติอาชญากรรม" ต้้งหลายวัน ทำใบขับขี่ "ชนิดส่วนบุคคล" ใหม่เลย...ดีไหมนะ? - ไม่ค่อยดีมั๊ง.. ...เพราะอะไร? -เพราะต้องสอบใหม่ทั้งหมดเลยทั้งข้อเขียน ทั้งขับรถ แล้วทำยังไงดีหล่ะ? - ไม่ยาก! เลยครับ จากเดิมใช้ ใบขับขี่ทุกประเภทชนิดที่ 2 (ท.2) สามารถเปลี่ยนเป็นใบขับขี่ บ.2 ได้เลย... ถาม : ยากไหม? ตอบ : ไม่ยากครับ! ไม่ต้องสอบข้อเขียน และไม่ต้องสอบขับรถใหม่ด้วย... โอโห : อย่างนี้ก็ดีนะซิ! ตอบ : ดี! ถ้าไปที่ขนส่งแต่เช้า "สอบปฏิบัติ" เช่นการทดสอบสายตา การกะระยะเบรค ทดสอบการมองเห็นสี และอบรม 2 ชั่วโมง เสร็จ ได้รับบัตรวันนั้นเลย จริงดิ! สิ่งที่ต้องเตรียม : 1.บัตรประชาชน 2.ใบขับขี่เก่า 3.ใบรับรองแพทย์ 4.ค่าทำบัตร 200 บาท สิ่งที่ไม่ต้องเตรียม : 1.สำเนาทะเบียนบ้าน 2.สำเนาบัตรประชาชน 3.รถยนต์ (เพราะรถติด พอไปถึงก็หาที่จอดรถยาก นั่งรถสาธารณะไปเถอะ) 4.แฟน (ไม่ต้องพาแฟนไ

ต่ออายุใบขับขี่ชนิดที่ 2 ทุกประเภท หรือ ท.2

รูปภาพ
เวลาสามปีผ่านไปไวเหมือนโกหก ทำงานจนเพลิน จนลืมดูใบขับขี่ พอหยิบจากกระเป๋ามาดู ปรากฏว่า ใบขับขี่หมดอายุแล้ว ประมาณสิบกว่าวัน อาการปวดหัวเริ่มขึ้นทันที ใบขับขี่ของผู้เขียนเป็นชนิดที่ 2 ทุกประเภท หรือ ท.2 หลังจากค้นหาข้อมูลในอินเตอร์เน็ตอยู่ครึ่งค่อนวัน ว่าต้องเตรียม หรือไม่เตรียมอะไรไปบ้าง หายังไงก็ไม่เจอ  เจอแต่ชนิดอื่น ๆ ซึ่งเราไม่แน่ใจว่าจะเหมือนกันรึเปล่า ผู้เขียนจึงได้ตั้งปนิธานว่า หลังจากเสร็จภาระกิจครั้งนี้ ผู้เขียนจะนำการต่อใบขับขี่ ชนิดที่ 2 กลับมาถ่ายทอดให้ผู้อื่น เพื่อเป็นแนวทางบ้าง สำหรับ ใบขับขี่ชนิดที่ 2 ทุกประเภท หรือ ท.2 ปัจจุบันสามารถต่ออายุได้ล่วงหน้า 60 วัน ถ้าหากใบขับขี่หมดอายุ เหมือนผู้เขียน คือไม่เกิน 1 ปี สิ่งที่ต้องเตรียมคือ 1.ใบขับขี่ 2.บัตรประชาชน 3.สำเนาบัตรประชาชน จำนวน 2 ใบ เซ็นชื่อกำกับสำเนาถูกต้อง ทั้ง 2 ใบ แต่อีกใบหนึ่ง ให้เพิ่มเบอร์โทรศัพท์ด้วย [สิ่งที่ไม่ต้องเตรียมไปคือ 1.ใบรับรองแพทย์ 2.ทะเบียนบ้าน และสำเนาทะเบียนบ้าน 3.รูปถ่าย เพราะเขาใช้เป็นบัตรแข็ง สมาร์ทแล้ว นอกจากคนที่จะ ทำบัตรติดหน้ารถแท็กซี่เท่านั้น จึงต้องเตรียมรูปถ่าย แต่ขนาด